ว่าด้วยเรื่อง สิทธิสตรีในรัฐอิสลามอิหร่าน ความจริงที่สื่อตะวันตก ไม่อยากให้ชาวโลกได้รับรู้ — [จากกรณีการเสียชีวิตของหญิงอิหร่าน มะฮ์ซา อามินี]
เกิดอะไรขึ้นในอิหร่าน?
ไม่กี่วันมานี้ มีข่าวประโคมไปทั่วโลก เกี่ยวกับการเสียชีวิตของหญิงสาวชาวอิหร่าน มาห์ซา อามินี (Mahsa Amini) ในระหว่างการควบคุมตัว โปรไฟล์ของเธอ นำไปสู่การวิเคราะห์ถึงสาเหตุการเสียชีวิต และแม้ในเบื้องต้นจะยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่ความไร้จรรยาบรรณของสื่อตะวันตก และผู้สนับสนุน ก็ได้ฉวยผลประโยชน์จากการตายของเธอ รีบรุดปลุกปั่นเหตุจลาจลทางการเมือง และผลักดันโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านอิหร่าน โดยเพิกเฉยต่อความจริงอย่างสิ้นเชิง ซึ่งไม่ใช่ปรากฎการณ์ครั้งแรก
สื่อตะวันตกอ้างว่า เธอถูกทุบตีจนเสียชีวิต แม้ว่า รายงานการชันสูตร และวิดีโอที่มี จะพิสูจน์และให้หลักฐานในสิ่งที่ตรงกันข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อภาพของอามีนีบนเตียงในโรงพยาบาล ไม่ได้บ่งชี้ถึงลักษณะของการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด
📌มหกรรมเฟคนิวส์
มหกรรมเฟคนิวส์ดังกล่าว นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นสิทธิสตรีในอิหร่าน ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น “สาธารณรัฐอิสลาม” อย่างกว้างขวาง รวมถึงสื่อในไทย และยังยุยงไปสู่การประท้วงภายในประเทศ โดยปรากฏคลิปวิดิโอ กลุ่มผู้ก่อจลาจล เผารถพยาบาล รถส่วนบุคคล รถโดยสารสาธารณะ ทำลายสัญลักษณ์ทางศาสนา และย่ำยีภาพบุคคลผู้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนส่วนมากในอิหร่าน อย่างไร้มนุษยธรรม (ซึ่งแน่นอนว่า สื่อกระแสหลักจะไม่นำเสนอด้านนี้ของผู้ประท้วงอย่างไม่ต้องสงสัย)
นักสิทธิทั้งหลาย ดาราฮอลลีวูด คนดัง สื่อต่างๆ ออกมาคอมเม้นท์กันตามเทรนด์ (แบบสองมาตราฐาน หากเทียบกับการตายของผู้หญิงชาติอื่นๆ โดยการกระทำของมหาอำนาจจักรวรรดินิยม) โดยไม่ แม้แต่จะศึกษาถึงข้อเท็จจริงเลยว่า ประเทศอิหร่าน “ภายหลังการปฏิวัติอิสลาม” มีรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่สตรีอย่างไรบ้าง
📌 สิทธิสตรีในอิหร่าน
ยกตัวอย่างพื้นๆ จากเรื่องการศึกษา
ความสนใจเป็นพิเศษที่สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน มอบให้ผู้หญิง โดยเฉพาะด้านการศึกษา นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม ในความก้าวหน้าทางด้านชีวิตส่วนบุคคล สังคม และวิทยาศาสตร์ในยุคหลังการปฏิวัติอิสลามอิหร่าน
นับตั้งแต่การปฏิวัติอิสลาม ใน ค.ศ.1979 ได้มีการนำมาตรการที่ดีมาใช้อย่างรวดเร็ว และด้วยความจริงจังอย่างสมบูรณ์ ในความสอดคล้องกับการส่งเสริมการรู้หนังสือของสตรีอย่างรอบด้านและทั่วถึง โดยมีผลลัพธ์ที่เป็นที่น่ายกย่อง ซึ่งอัตราการรู้หนังสือของผู้หญิงอิหร่าน เพิ่มขึ้นจาก 37 % ในปี 1976 เป็น 87 % ในปี 2015 เป็นที่น่าสังเกตว่าอัตราการรู้หนังสือของผู้หญิงอิหร่านนั้น ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกด้วยซ้ำไป
นอกจากนี้ หากคำนึงถึงด้านกฎหมาย ในมาตรา 20 – รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ยังเน้นย้ำเกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยไม่คำนึงถึงเพศ อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น สิทธิในทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
ยิ่งไปกว่านั้น มาตรา 21 ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปกป้องสิทธิของผู้หญิง โดยประกาศว่า ทุกคนควรเคารพสิทธิของผู้หญิง และยังยืนยันว่า สิทธิเหล่านี้เป็นความรับผิดชอบอย่างหนึ่งของฝ่ายบริหาร และองค์กรรัฐของประเทศ
เอกสารที่เป็นมูลฐานอีกประการ ซึ่งกล่าวถึงสิทธิสตรีในอิหร่านคือ “กฎบัตรสิทธิ และความรับผิดชอบของสตรี” ซึ่งระบุและให้สัตยาบัน โดยองค์กรที่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจ ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในอิหร่าน ชื่อว่า สภาสูงสุดแห่งการปฏิวัติด้านวัฒนธรรม โดยในภาคส่วน “การศึกษา” เอกสารดังกล่าว ได้ระบุถึงประเด็นดังต่อไปนี้:
* สิทธิของผู้หญิงในการได้รับประโยชน์จากสุขภาพ (เช่น สุขภาพในสภาพแวดล้อมการทำงาน ฯลฯ ) และสิทธิในการได้รับประโยชน์จากข้อมูล และช่องทางการศึกษาที่จำเป็น;
* สิทธิของผู้หญิงในการมีส่วนร่วมทางการเมือง การออกกฎหมาย การจัดการ การดำเนินการ และการกำกับดูแล สุขภาพ และการรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิง;
* สิทธิของผู้หญิงในการเข้าถึงการศึกษาของรัฐ และได้รับประโยชน์จากการปรับปรุงด้านการศึกษา และจากช่องทางด้านการศึกษาที่หลากหลายต่างๆ;
* สิทธิของผู้หญิงที่จะได้รับประโยชน์จากการศึกษาระดับอุดมศึกษา จนถึงระดับสูงสุด;
* สิทธิของผู้หญิงในการได้รับประโยชน์จากสิทธิพิเศษทางการศึกษา ในพื้นที่ด้อยโอกาส;
* สิทธิของผู้หญิง ในความพยายามรับผิดชอบการเตรียมโรงเรียน และอุปกรณ์การเรียนอื่นๆ;
* สิทธิและความรับผิดชอบของผู้หญิงในการได้รับมาซึ่ง ตำแหน่งที่เหมาะสมกับสถานะ และบทบาทของพวกเธอในโรงเรียน และหน่วยงานทางการศึกษาอื่น ๆ
📌 บทบาทและสิทธิสตรีในทัศนะอิสลาม
นอกเหนือจากนโยบาย และเอกสารที่เป็นรากฐาน เกี่ยวกับการศึกษาของสตรีในอิหร่านแล้ว ผู้นำ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสาธารณรัฐอิสลามฯ ก็ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน และโอกาสที่จำเป็นสำหรับความก้าวหน้า และการเติบโตของผู้หญิงในชีวิตส่วนตัวและสังคม ในสุนทรพจน์ต่างๆอย่างสม่ำเสมอ ตัวอย่างเช่น อิมาม ซัยยิด อะลีคาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลามคนปัจจุบัน กล่าวว่า:
“..สตรี มีบทบาทในกิจกรรมทางสังคม การเมืองวิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจ จากมุมมองของศาสนาอิสลาม เวทีสำหรับกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์เศรษฐกิจ และการเมืองของสตรี เปิดกว้างอย่างสมบูรณ์ หากมีผู้ใดตัดสินใจกีดกันสตรี จากงานด้านวิทยาศาสตร์ และความพยายามทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม บนพื้นฐานของมุมมองของอิสลาม พวกเขาได้กระทำการขัดต่อพระบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า สตรีสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆได้มากเท่าที่ความสามารถทางร่างกาย และความต้องการของพวกเธอจะเอื้ออำนวย พวกเธอสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมได้มากเท่าที่จะทำได้ กฎชารีอะฮ์อิสลามอันศักดิ์สิทธิ์ [กฎหมายอิสลาม] ไม่ได้ต่อต้านมัน แน่นอนว่า เนื่องจากผู้หญิงมีความละเอียดอ่อนในด้านกายภาพ จึงมีข้อจำกัด บางประการ..”
และนี่เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งจากความก้าวหน้า สิทธิ และโอกาส ที่ผู้หญิงอิหร่านได้รับภายหลังการปฏิวัติอิสลามเพียงเท่านั้น !
_____
📝รายงานความจริงจาก นักศึกษาหญิงไทย ในอิหร่าน
– อ่านข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ การศึกษาของสตรี ยุคก่อน และหลังการปฏิวัติอิสลามอิหร่าน: การค้นคว้าเชิงเปรียบเทียบ [คลิกลิงก์]
https://www.abnewstoday.com/15445