เมื่อรัสเซียจะช่วยยึดที่ราบสูงโกลัน
บทความโดย สิริอัญญา คอลัมนิสต์จากหนังสือพิมแนวหน้า
สงครามยูเครนมาถึงสถานการณ์ที่ยูเครนกำลังจะสิ้นชาติ โดยจะถูกแบ่งออกเป็นยูเครนตะวันตกและยูเครนตะวันออก คือยูเครนตะวันออกจะเป็นของรัสเซีย และยูเครนตะวันตกจะเป็นของนาโต้ซึ่งออกหน้าโดยโปแลนด์ ขณะนี้การเจรจาเพื่อยุติสงครามในลักษณะนี้กำลังรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว
รัสเซียทราบดีว่าเบื้องลึกเบื้องหลังสงครามยูเครนนั้นแม้นาโต้จะออกหน้าโดยมีสหรัฐและอังกฤษเป็นตัวชูโรงก็จริง แต่เบื้องลึกสุดที่เป็นเจ้ากี้เจ้าการคืออิสราเอล
รัสเซียตกเป็นเป้าหมายที่จะถูกทำลายมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง โดยมีไอ้โม่งติดสินบนคณะฮิตเลอร์ให้เปลี่ยนทิศทางสงครามที่กำลังรุกสู่อังกฤษไปเป็นรัสเซีย ทำให้ฮิตเลอร์เคลื่อนพลถึงล้านคนยกไปรบรัสเซียแล้วพ่ายแพ้ยับเยิน ซึ่งเหตุการณ์นั้นก็ถูกมองว่าเบื้องลึกเบื้องลับก็คืออิสราเอล ซึ่งรัสเซียมีความเชื่อฝังใจอย่างนี้ ถึงขนาดมีการสอนเรื่องนี้กันในวิทยาลัยการทหารของรัสเซียเป็นการทั่วไป
รัสเซียเชื่อว่ามีการเตรียมการตั้งรัฐอิสราเอลที่สองขึ้นในยูเครน โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกและภาคใต้ซึ่งเป็นภูมิภาคที่อุดมสมบูรณ์และมีแหล่งทรัพยากรมากมาย ทั้งเป็นภูมิยุทธศาสตร์ที่ควบคุมทะเลอะซอฟและทะเลดำซึ่งเป็นชัยภูมิสำคัญของภูมิภาค ทั้งนี้เพื่อรองรับกับประชากรอิสราเอลที่อาศัยในยูเครนเกือบ 5 ล้านคน และถ้าหากตั้งหลักปักฐานได้มั่นคงขึ้นก็จะมีการอพยพชาวอิสราเอลจากหลายที่หลายแห่งเข้ามาอยู่ในพื้นที่ยูเครนในพื้นที่ดังกล่าว
ดังนั้นรัสเซียจึงเชื่อว่าการสร้างสถานการณ์ในยูเครนก็เพื่อทำให้ยูเครนมีความมั่นคงและปลอดภัยทางการทหารเพื่อบรรลุถึงเป้าหมายดังกล่าว แต่ที่กระทำการเช่นนั้นเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของรัสเซียอย่างร้ายแรง ซึ่งรัสเซียยอมไม่ได้จึงเป็นเหตุให้เกิดสงครามยูเครนขึ้น
และเมื่อเกิดสงครามแล้วรัสเซียก็เชื่อว่าอิสราเอลคือผู้อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนกลุ่มนาโต้และกลุ่มสหภาพยุโรปให้ต่อต้านและทำลายรัสเซียทุกวิถีทาง แม้กระทั่งการประสานงานให้รัฐสภาประเทศต่าง-ๆ เปิดโอกาสให้ตัวตลกได้ปราศรัยอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งเรื่องแบบนี้อย่าว่าระดับตัวตลกเลย แม้ระดับประธานาธิบดีปูตินหรือนายหัวยุ่งของอังกฤษหรือนายมาครงก็ไม่สามารถทำได้
สถานการณ์ล่าสุดรัสเซียสามารถยันและรับมือทางการทหารเข้ายึดครองและสถาปนาการปกครองพื้นที่ยูเครนตะวันออกและภาคใต้ รวมทั้งการจัดระบบการบริหารการปกครองให้ประชาชนในพื้นที่เหล่านั้นใช้ชีวิตปกติและให้ใช้เงินรูเบิลเป็นสกุลเงินหลักแล้ว รัสเซียยังสามารถรับมือกับการคว่ำบาตรน้ำมันและแก๊สอย่างได้ผล จนได้รับชัยชนะในสงครามคว่ำบาตรพลังงานอย่างงดงาม
แม้กระนั้นก็ยังมีความพยายามดิ้นรนที่จะประสานงานส่งอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าไปรบกับยูเครนอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง รัสเซียรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ดังนั้นนอกจากจะออกคำเตือนไปยังสหรัฐ อังกฤษ เยอรมัน และฝรั่งเศสแล้ว รัสเซียได้ชี้มือตรงไปที่อิสราเอลว่าให้หยุดส่งอาวุธให้ยูเครนไปรบกับรัสเซียในทันที และดูเหมือนจะได้ผลเพราะอิสราเอลได้สั่งการให้ระงับการส่งอาวุธไปช่วยยูเครนโดยตรงแล้ว
ในขณะที่เกิดสงครามยูเครนขึ้น สถานการณ์ในตะวันออกกลางก็ยกระดับความรุนแรงขึ้น อิหร่านได้ประกาศว่าเวลาในการปลดปล่อยปาเลสไตน์จะมาถึงในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ประสานเสียงกับขบวนการฮิซบุลเลาะห์ที่สั่งเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด โดยแจ้งแก่กำลังพลว่าสงครามปลดแอกปาเลสไตน์จากอิสราเอลจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า ให้กองกำลังทั้งหมดสั่งเสียครอบครัวลูกเมียให้พร้อมเพื่อปฏิบัติภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเป็นเจ้า
ในสถานการณ์นั้นปรากฏว่ากองกำลังปฏิวัติอิสลามทั้งในอิรัก ในซีเรีย ในเยเมน รวมทั้งในเลบานอนและปาเลสไตน์กำลังเคลื่อนไหวอย่างคึกคักในลักษณะเตรียมพร้อมที่จะทำสงคราม ในขณะเดียวกันก็มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นในฉนวนกาซาและในอิสราเอล โดยที่หาสาเหตุไม่พบหลายครั้ง ไม่ว่าเหตุการณ์เพลิงไหม้หรือเหตุการณ์ระเบิด แม้กระทั่งมีโดรนลึกลับเข้าโจมตีฐานทัพสหรัฐทั้งในซีเรียและสหรัฐอย่างต่อเนื่อง
ในสถานการณ์เช่นนี้รัสเซียได้แสดงท่าที่ว่าที่ราบสูงโกลันเป็นดินแดนของซีเรีย ซึ่งรัสเซียอาจประกาศรับรองเป็นทางการ อันเป็นการแสดงท่าทีที่ชัดเจนครั้งแรกต่ออิสราเอลว่ารัสเซียถือว่าที่ราบสูงโกลันเป็นของซีเรีย และอิสราเอลจะต้องคืนดินแดนนี้แก่ซีเรีย
หลังจากนั้นรัสเซียก็ได้ประกาศว่าในสถานการณ์ที่จำเป็นรัสเซียจะสนับสนุนและช่วยเหลือปาเลสไตน์และขบวนการปลดแอกปาเลสไตน์ทุกขบวนการในการทวงเอาที่ราบสูงโกลันและดินแดนที่อิสราเอลยึดไป
ปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้อิสราเอลตื่นตระหนกและรีบเชิญชวนสหรัฐมาทำการซ้อมรบเป็นพิเศษ โดยเป้าหมายแห่งการซ้อมรบคือการชิงโจมตีอิหร่านเพราะถือว่าอิหร่านคือเจ้ามือใหญ่ที่สนับสนุนการปลดแอกปาเลสไตน์ ซึ่งอิหร่านก็ประกาศความพร้อมเพราะมีความเชื่อตามฮะดิษในอิสลามว่าสักวันหนึ่งกองทัพซุบยานีหรือกองทัพมารจะรุกเข้าโจมตีอิหร่านก่อน
จากนั้นกองทัพอิหร่านก็จะโจมตีตอบโต้และได้รับชัยชนะ ในสถานการณ์นั้นพระผู้มาโปรดพระองค์ใหม่คืออิหม่ามมะดีฮ์ซึ่งเป็นอิหม่ามองค์ที่ 12 ก็จะปรากฏพระองค์ และในฮะดิษยังระบุด้วยว่านอกจากกองทัพของอิหร่านแล้วจะมีกองทัพของเยเมนเข้ามาบรรจบทัพกัน แต่สถานที่ไม่แจ้งชัดว่าจะเป็นเมกกะหรืออัลอักซอ จึงทำให้ควันสู้รบของทั่วประเทศอิหร่านได้รับพลังอันยิ่งใหญ่จากพระเป็นเจ้า
อิหร่านจึงได้ประกาศว่าอิหร่านพร้อมรบแล้ว และพร้อมรับมือกับการโจมตีของทั้งสหรัฐและอิสราเอล และทันทีที่อิหร่านถูกโจมตี ขีปนาวุธอย่างน้อย 60,000 ลูก ก็จะถูกยิงจากอิหร่านไปยังอิสราเอล
ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงขีปนาวุธที่กระจายตัวอยู่ที่เยเมน เลบานอน ปาเลสไตน์ อิรักและซีเรีย ซึ่งไม่รู้ว่ามีจำนวนเท่าใด ดังนั้นต่อให้อิสราเอลมีระบบป้องกันขีปนาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงสักเท่าใด แต่จำนวนที่จำกัดและการโจมตีที่มาจากทุกสารทิศ ยังไม่รวมถึงการเผชิญกับระบบนำทางและระบบการทำลายสัญญาณขององค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ ย่อมทำให้อิสราเอลตกอยู่ในความเสี่ยงชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
เมื่อรัสเซียแสดงท่าทีเช่นนั้นแล้วก็เสริมกำลังรบเข้าตะวันออกกลางอย่างรวดเร็วทั้งกำลังทางอากาศและกำลังทางนาวี ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้กองกำลังของนาโต้ในยุโรปอาจต้องกระจายกำลังมายังพื้นที่ตะวันออกกลางมากขึ้น หรือว่านี่คือกลยุทธ์ตีเมืองเว่ย ช่วยเมืองเจ้า ของคณะเสนาธิการร่วมอีกเรื่องหนึ่ง
การเชื่อมต่อเส้นทางระหว่างฐานทัพอากาศที่รัสเซียขอใช้ในอิหร่าน ในอิรัก และในซีเรีย กำลังเตรียมการอย่างคึกคัก รวมทั้งฐานทัพเรือของซีเรียริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่อนุญาตให้รัสเซียเข้าใช้มานานแล้วก็กำลังได้รับการเสริมกำลังทั้งทางนาวีและกำลังทางอากาศอย่างขนานใหญ่
การเสริมกำลังดังกล่าวนั้นย่อมทำให้การเคลื่อนตัวของกองเรือที่ 5 ของสหรัฐในภารกิจที่เกี่ยวกับตะวันออกกลางย่อมไม่สะดวกปลอดภัยเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว และผลต่อเนื่องที่เกิดขึ้นก็คือทำให้การเคลื่อนตัวของทัพเรือที่ 5 มายังมหาสมุทรอินเดียมีอุปสรรคและปัญหาโดยเฉพาะความปลอดภัยและการส่งกำลังบำรุง
ที่สำคัญคือในมหาสมุทรอินเดียขณะนี้ไม่เหมือนก่อนอีกแล้ว ที่ชายทะเลรัฐยะไข่มีฐานทัพเรือขนาดใหญ่ของจีนตั้งอยู่ และมีกองเรือดำน้ำของรัสเซีย จีน อิหร่าน วางกำลังคุ้มกันพม่าอยู่ตลอดเวลา และจะมีการซ้อมรบเป็นประจำมากขึ้น
พื้นที่ใกล้หมู่เกาะดิเอโกการ์เซีย อิหร่านก็เพิ่งขยายฐานทัพเรือเข้ามาประกบจนทำให้สหรัฐต้องเคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากออกไปจากหมู่เกาะนี้เพราะไม่สามารถส่งกำลังบำรุงได้โดยสะดวกอีกแล้ว
ในขณะที่พื้นที่ทะเลแดงและศรีลังกาก็มีฐานทัพของจีนทั้งที่จิบูตีและที่ศรีลังกาคุมเชิงอยู่ นอกจากนั้นทั้งต้นและปลายช่องแคบมะละกา ซุนดา และแลมบอร์ก ที่เป็นภูมิยุทธศาสตร์เชื่อมต่อสำหรับกองเรือที่ 5 และกองเรือที่ 7 ของสหรัฐระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิกก็มีกองเรือดำน้ำของรัสเซียและจีนวางกำลังสกัดอยู่เป็นจำนวนมาก
สถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปโดยพื้นฐานดังกล่าวทำให้การประกาศจุดยืนเกี่ยวกับที่ราบสูงโกลันกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจของสมรภูมิแห่งใหม่ ที่ไม่ได้เสี่ยงอันตรายของสงครามโลกครั้งที่สามน้อยไปกว่าสงครามยูเครนเลย