ผู้เชี่ยวชาญชาวอิรัก ระบุ การเมืองในอิรักวุ่นวาย พิสูจน์ประชาธิปไตยในแบบฉบับของสหรัฐฯ ประสบความล้มเหลว
ผู้เชี่ยวชาญชาวอิรัก เปิดเผยว่า การเมืองอิรักวุ่นวาย นับตั้งแต่สหรัฐบุกกรุงแบกแดดเมื่อปี 2003 พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ประชาธิปไตยแบบอเมริกาในอิรัก ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง โดยการเลือกตั้งสภาผู้แทนชุดใหม่ เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วในอิรัก แต่ผลการเลือกตั้งประกาศเดือนพฤศจิกายน และศาลสูงสุดอิรัก รับรองผลการเลือกตั้งสุดท้ายเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
รัฐธรรมนูญอิรักมีข้อบัญญัติว่า ประธานาธิบดีคนใหม่และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ต้องได้รับการยืนยัน และต้องมีการตั้งรัฐบาลใหม่ในช่วงต้นเดือนมีนาคมของปีนี้ อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งประธานาธิบดี ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เนื่องจากไม่มีข้อตกลงระหว่างกลุ่มการเมืองต่าง ๆ
อาเหม็ด อัล-ชาริฟี ผู้เชี่ยวชาญชาวอิรัก บอกว่า การบุกอิรักของสหรัฐฯ ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น มีแต่ความวุ่นวายเท่านั้น
อัล-ชาริฟี กล่าวต่อไปว่า เขาได้ยินอเมริกาแสดงความเห็นเกี่ยวกับประชาธิปไตย แต่เท่าที่ผ่านมา อิรักยังไม่เห็นความสำเร็จทางประชาธิปไตยในประเทศนี้ของอเมริกา และในความเป็นจริงก็แตกต่างจากที่สหรัฐฯ อ้างไว้ ทุกวันนี้อิรักกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ผู้ก่อการร้ายไปแล้ว และโครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหาย
ผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยว่า การที่สหรัฐฯ แทรกแซงกิจการภายในของอิรัก มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อิทธิพลของตัวเองในตะวันออกกลาง มากกว่าให้ความสนใจประชาชนและอิรัก ซึ่งในมุมมองของเขา การบุกอิรักของสหรัฐฯ เพื่อต้องการโค่นล้มอำนาจของอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน และต้องการครอบงำตะวันออกกลาง รวมถึงมองว่า อิรักเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ
กลุ่มการเมืองต่าง ๆ ในอิรัก ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงปรองดอง ดังนั้น จึงเป็นเรื่องยากที่จะตั้งรัฐบาลใหม่ และส่งผลให้การอนุมัติเงินงบประมาณปี 2022 ต้องหยุดชะงัก