พลเรือนที่ติดอยู่ในเมืองมาริอูโปลได้รับการอพยพออกมาราว 100 คนแล้ว หลังก่อนหน้านี้โดนรัสเซียถล่มต่อเนื่อง
วันที่ 2 พ.ค. 2565 สำนักข่าวบีบีซี (BBC) รายงานว่า การอพยพพลเรือนออกจากเมืองมาริอูโปล ที่ตกเป็นเป้าโจมตีของกองทัพรัสเซียอย่างหนัก ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าวันเสาร์ (30 เม.ย.) จนล่าสุดมีการอพยพคนออกมาอยู่ในพื้นที่ของยูเครนได้ราว 100 คนแล้ว
ส่วนหนึ่งของผู้อพยพเป็นประชาชนที่ติดอยู๋ในโรงงานเหล็กกล้าอาซอฟสตัล ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของทหารยูเครนในเมือง โดยก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่าจำนวนพลเรือนที่ติดอยู่ภายในมีอยู่ราว 1,000 คน
ประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี เปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ว่า ผู้อพยพกลุ่มแรกที่มีจำนวนราว 100 คนได้เดินทางไปยังพื้นที่ของยูเครน โดยพวกเขาจะไปพบกับผู้อพยพที่เมืองซาโปริซเซีย ที่อยู่ห่างออกไปทางตะวันตกของเมืองมาริอูโปลราว 225 กิโลเมตร
นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังได้แสดงความขอบคุณไปยังเจ้าหน้าที่ยูเครน องค์การสหประชาชาติ (UN) และ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ที่มีส่วนร่วมในการอพยพพลเรือนออกมา
ขณะที่ฝ่ายรัสเซียยืนยันว่าได้ทำการอพยพพลเรือนราว 80 คนออกมาจากโรงเหล็กไปยังหมู่บ้านเบซิเมนน์ที่อยู่ทางตะวันออก ซึ่งเป็นจุดที่กองทัพรัสเซียควบคุมอยู่ ส่วนผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังพื้นที่ที่ยูเครนควบคุม ก็จะมีการส่งต่อให้กับเจ้าหน้าที่ของ UN และกาชาดสากล
การอพยพครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ UN เดินทางไปยังรัสเซียเพื่อหารือกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ก่อนที่ผู้นำรัสเซียจะเห็นชอบในหลักการเบื้องต้นว่าให้มีการอพยพพลเรือนออกมาจากโรงเหล็กอาซอฟสตัลได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ได้ทำการขู่ว่าจะปิดกั้นพื้นที่โรงเหล็กในระดับที่แม้แต่แมลงวันตัวเดียวก็บินออกไม่ได้
ที่มา: https://www.bbc.com/news/world-europe-61292951
https://twitter.com/ZelenskyyUa/status/1520799554546941954