ทรัมป์ เรียกร้องปูติน แฉข้อมูลทำลายชื่อเสียงครอบครัวไบเดน

Related posts

ไบเดน ชี้ สหรัฐฯ ไม่สนับสนุนอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์เพื่อตอบโต้อิหร่าน

ตุลาคม 3, 2024

กระทรวงการต่างประเทศเตือน! คนไทย หากไม่จำเป็นขอให้เดินทางออกจากอิสราเอล

ตุลาคม 2, 2024

ทรัมป์ เรียกร้องปูติน แฉข้อมูลทำลายชื่อเสียงครอบครัวไบเดน

Burapanews  สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย นำข้อมูลใด ๆ ก็ตามที่จะกระทบต่อชื่อเสียงของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และครอบครัวออกมาเผยแพร่ให้สาธารณชนได้รับรู้ นับเป็นอีกครั้งที่ ทรัมป์ เอ่ยปากขอความช่วยเหลือทางการเมืองจากชาติศัตรูอันดับ 1 ของอเมริกา

โดย ทรัมป์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ถึงกระแสข่าวลือที่ว่า “ฮันเตอร์ ไบเดน” บุตรชายของผู้นำสหรัฐฯ เข้าไปทำธุรกิจในรัสเซีย และยังขอให้ ปูติน ช่วยเปิดเผยข้อมูลที่เขาอาจจะทราบ ซึ่งก็ไม่ชัดเจนว่ามีอยู่จริงหรือไม่ และทำเนียบเครมลินจะสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้หรือไม่อย่างไร

“ผมเชื่อว่า ปูติน น่าจะรู้คำตอบดี” ทรัมป์ กล่าว “ผมว่าเขาควรเปิดโปงข้อมูลเหล่านั้น ผมคิดว่าพวกเราควรจะได้รู้คำตอบ”

เป็นความจริงที่ว่า ฮันเตอร์ ไบเดน เคยได้รับค่าจ้างมหาศาลจากการทำงานเป็นที่ปรึกษาในต่างประเทศ เช่น ยูเครนและจีน ระหว่างที่พ่อของเขายังเป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ก็อยู่ระหว่างตรวจสอบดีลธุรกิจเหล่านี้ว่ามีอะไรที่เข้าข่ายเป็นอาชญากรรมทางการเงินหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ข้ออ้างของ ทรัมป์ ที่ว่าครอบครัวไบเดนมีพฤติกรรมทุจริต หรือพยายามกำหนดนโยบายของสหรัฐฯ เพื่อเอื้อประโยชน์ส่วนตนนั้นยังไม่มีหลักฐานรองรับ อีกทั้งตัวประธานาธิบดีไบเดน เองก็ไม่ได้ตกเป็นเป้าหมายในการสอบสวนด้วย

การร้องขอความช่วยเหลือจาก ปูติน ในครั้งนี้ทำให้หลายคนหวนนึกไปถึงคำพูดสุดอื้อฉาวของ ทรัมป์ เมื่อเดือน ก.ค. ปี 2016 ที่เขาบอกว่า “รัสเซีย ถ้าพวกคุณฟังอยู่” จากนั้นก็ขอให้ ปูติน ช่วยแฮกอีเมลส่วนตัวของ “ฮิลลารี คลินตัน” ซึ่งเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีคู่แข่ง

แคมเปญหาเสียงของ ทรัมป์ ในปีนั้นยังฉกฉวยโอกาสจากปฏิบัติการแทรกแซงของรัสเซียที่มุ่งโจมตีคลินตัน ตัวอย่างเช่น มีการนำอีเมลของพรรคเดโมแครตที่ถูกแฮก และปล่อยโดยรัสเซียมาใช้หาเสียง แถมคนวงในใกล้ชิด ทรัมป์ หลายคนยังเคยไปพบกับตัวแทนของรัสเซียที่รับปากว่าจะช่วยขุดคุ้ยเรื่องอื้อฉาวของคลินตัน

ต่อมา ในปี 2019 ทรัมป์ ยังไปกดดันให้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเปิดการสอบสวนพฤติกรรมทุจริตของ ไบเดน และระงับเงินอุดหนุนด้านการทหารเกือบ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อบีบให้ยูเครนทำตาม ซึ่งเรื่องนี้ได้กลายเป็นชนวนนำไปสู่กระบวนการพิจารณาถอดถอน (impeachment) ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งครั้งแรก

ที่มา

https://edition.cnn.com/2022/03/29/politics/trump-putin-hunter-biden/index.html