นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เยือนสหรัฐ เข้าพบไบเดน ถกประเด็นสงครามยูเครน
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง ของสิงคโปร์ได้เดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา และได้เข้าพบปะกับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ เพื่อพุดคุยในประเด็นความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์สองประเทศ และความท้าทายจากสงครามในยูเครน รวมทั้งบทบาทของจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
ผู้นำสองประเทศได้ระบุในแถลงการณ์ร่วม หลังจากที่ทั้งสองได้พบปะกันที่ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ กล่าวว่า ภัยคุกคามต่อกฎบัตรสหประชาชาติ และกฎระเบียบระหว่างประเทศ เช่น การบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย ทำให้ความสงบสุข และความรุ่งเรืองของทั่วโลกตกอยู่ในความเสี่ยง
ซึ่งรวมถึงภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่กำลังเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อน ความร่วมมือระหว่างสิงคโปร์กับสหรัฐฯจึงมีความจำเป็นต่อโอกาส และความท้าทายในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีลีกำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐเป็นเวลา 7 วัน ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนสหรัฐฯ ครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีไบเดนเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ
นายกรัฐมนตรีลี ยังกล่าวในงานแถลงข่าวร่วมกันระหว่างสิงคโปร์กับสหรัฐฯ โดยอธิบายถึงสาเหตุที่สิงคโปร์ประกาศจุดยืนชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนว่า สิงคโปร์สนับสนุนกฎหมายระหว่างประเทศ และกฎบัตรสหประชาชาติอย่างแน่วแน่ กฎหมายเหล่านี้ห้ามมิให้ผู้ใดรุกรานอำนาจอธิปไตยของประเทศต่าง ๆ ด้วยเหตุผลนี้ สิงคโปร์จึงได้ออกแถลงการณ์ประณามการบุกโจมตียูเครนของรัสเซียอย่างรุนแรง
ขณะที่ประธานาธิบดีไบเดนระบุว่า เสียงสะท้อนจากทั่วโลกแสดงให้เห็นว่าสงครามของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ไม่เป็นที่ยอมรับ ทั้งนี้ การประชุมของผู้นำสิงคโปร์กับสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากที่กองทัพรัสเซียประกาศลดปฏิบัติการทหารรอบกรุงเคียฟของยูเครน
ก่อนที่สิงคโปร์ และสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ร่วม นายกรัฐมนตรีลี และประธานาธิบดีไบเดนได้ประชุมร่วมกันที่ห้องทำงานรูปไข่ ซึ่งเป็นห้องทำงานของผู้นำสหรัฐฯ ในทำเนียบขาว เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ เช่น สถานการณ์ในยูเครน การมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ความร่วมมือระดับทวิภาคีในขอบเขตใหม่ รวมถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในระดับภูมิภาค
ทั้งนี้ สิงคโปร์ คือ ประเทศในอาเซียนเพียงไม่กี่ประเทศที่ประกาศใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย สืบเนื่องจากที่รัสเซียบุกรุกยูเครนเมื่อปลายเดือนที่แล้ว โดยมาตรการลงโทษดังกล่าวรวมถึงการจำกัดการส่งออกสินค้าไปรัสเซีย และการคว่ำบาตรสถาบันการเงินรัสเซีย
ที่มา
No Result
View All Result