<!-- wp:paragraph --> <h2><strong>บิ๊กตู่ เยือนซาอุดิอาระเบียในรอบ 30 ปี กระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ</strong><br /><br /></h2> <h4><strong><a href="https://burapanews.com/">Burapanews</a> </strong> รายงานว่า <span style="color: #0000ff;"><strong><a style="color: #0000ff;" href="https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman"> เพจไทยคู่ฟ้า</a></strong></span> และ<span style="color: #0000ff;"><strong><a style="color: #0000ff;" href="https://www.thaigov.go.th/">เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล</a></strong></span> ได้เผยแพร่กำหนดการ การเดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียอย่างเป็นทางการของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระหว่างวันที่ 25 – 26 มกราคม ตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีช อัลซะอูด (His Royal Highness Prince Mohammad bin Salman bin Abdulaziz Al Saud) มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดิอาระเบีย โดยการเยือนครั้งนี้ ถือเป็นการเยือนในระดับผู้นำรัฐบาลระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี โดยนายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าเฝ้าฯ และพบหารือกับเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย เพื่อส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน<br /><br />ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า เนื่องจากการเดินทางดังกล่าวของนายกรัฐมนตรี จึงทำให้ต้องมีการเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี จากวันอังคารที่ 25 มกราคมมาเป็นวันจันทร์ที่ 24 มกราคมแทน</h4> <h4>ก่อนหน้านี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้เดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียมาแล้ว เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา</h4> <h4><br />โดย นายดอน กล่าวว่า สำหรับการเดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียนั้น ถือเป็นการเดินทางเยือนตามคำเชิญของฝ่ายซาอุดิอาระเบีย ซึ่งมีการนัดหมายกันไว้ล่วงหน้า และยังถือเป็นการเดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียครั้งแรกของรัฐมนตรีต่างประเทศไทยในรอบ 30 ปี หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายมีความประสงค์ที่จะปรับความสัมพันธ์ระหว่างกันและได้หารือกันมาระยะหนึ่งแล้ว </h4> <h4>โดยระหว่างการเยือนได้มีการหารือกับเจ้าชายฟัยศ็อล บิน ฟัรฮาน อัลซะอูด รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบีย กับนายอาดิล บิน อะหมัด อัลณูบีร รัฐมนตรีแห่งรัฐด้านกิจการต่างประเทศและอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบีย ประเด็นหลักที่ได้มีการพูดคุยกันคือการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งการเยือนครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากซาอุดิอาระเบียเป็นอย่างดี และถือเป็นพัฒนาการในทางบวกที่จะเป็นประโยชน์สำหรับทั้ง 2 ประเทศต่อไป</h4> <h4>ทั้งนี้ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวซาอุฯ <span style="color: #0000ff;"><strong><a style="color: #0000ff;" href="https://twitter.com/ebrahimalmegbi1/status/1484945357129854980">อิบราฮีม อัลเมกบิล</a></strong></span> ได้ทวิตข้อความเกี่ยวกับ การฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดิอาระเบีย ระบุว่า "การฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประะเทศไทยกับซาอุดิอาระเบีย หลังจากที่ตัดความสัมพันธ์ระหว่างกันมาทั้ง 32 ปี</h4> <h4><br />ในการฟื้นความสัมพันธ์ครั้งนี้</h4> <h4>-ชาวซาอุดิอาระเบียที่มาเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย โดยไม่ต้องขอวีซ่า</h4> <h4><br />-เปิดวีซ่าทำงานให้กับคนไทยที่สามารถจะไปทำงานที่ประเทศซาอุดิอาระเบียได้</h4> <h4><br />-การแต่งตั้งเอกอัครราชทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทย</h4> <h4><br />-การร่วมมือทางการค้าในการนำเข้าและส่งออกสินค้า"</h4> <!-- /wp:paragraph -->