เจ้าหน้าที่เยเมน เตือนให้บริษัทต่างชาติออกจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างเร่งด่วน

Related posts

ไบเดน ชี้ สหรัฐฯ ไม่สนับสนุนอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์เพื่อตอบโต้อิหร่าน

ตุลาคม 3, 2024

กระทรวงการต่างประเทศเตือน! คนไทย หากไม่จำเป็นขอให้เดินทางออกจากอิสราเอล

ตุลาคม 2, 2024

เจ้าหน้าที่เยเมน เตือนให้บริษัทต่างชาติออกจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างเร่งด่วน

Burapanews  สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า พันเอก ยะห์ยา ซารีอ์ โฆษกกองทัพเยเมน ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ระบุว่า ตราบใดที่เหล่าผู้ปกครองเอมิเรตส์ยังละเมิดและรุกรานต่อประเทศของเรา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็จะไม่เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยอีกต่อไป

โฆษกกองทัพเยเมน กล่าวเสริมว่า เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรโดยการนำของพวกซาอุฯได้ก่ออาชญากรรมในการสังหารหมู่ประชาชนของเรา ฉะนั้นจึงขอเตือนให้บริษัทต่างชาติออกจากแผ่นดินเอมิเรตส์โดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ ล่าสุด กองทัพเยเมนและกองกำลังประชาชนชาวเยเมนได้ปฏิบัติการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนไร้คนขับเข้าใส่แผ่นดินเอมิเรตส์ โดยมีการระเบิดใกล้กับโรงกลั่นน้ำมัน Adnoc (Abu Dhabi national oil company)และการระเบิดอีกครั้งหนึ่งในสนามบินนานาชาติกรุงอาบูดาบี เป็นเหตุให้ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 6 คน

พันเอก ยาห์ยา ซารีอ์ เผยว่า ในการตอบโต้ของการโจมตีที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มพันธมิตร ผู้ละเมิดและรุกรานชาวสหรัฐฯ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เราจะปฏิบัติการณ์ พายุแห่งเยเมน ด้วยความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้า

โฆษกกองทัพเยเมน กล่าวเสริมอีกว่า วันนี้ กองทัพเยเมนได้กล่าวเตือนต่อประเทศ ผู้ละเมิดที่ได้สร้างความเสียหายและความเจ็บปวดให้กับชาวเยเมน จงรู้ไว้เถิดว่า เราขอประกาศว่า หากมีการโจมตีต่อเยเมนอย่างต่อเนื่อง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะไม่เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ซาอุดีอาระเบีย ในฐานะที่เป็นแกนนำของกลุ่มพันธมิตรสหรัฐฯ ได้เริ่มต้นโจมตีต่อประเทศเยเมน ซึ่งเป็นประเทศชาติอาหรับที่ยากจนที่สุด เมื่อ 6 ปี ที่ผ่านมา ด้วยข้ออ้างที่ว่า ต้องการให้นายอับดุรับบิห์ มันซูร ฮาดี อดีตประธานาธิบดีเยเมนที่ถูกไล่ออกและหลบหนีโดยการขอลี้ภัยยังประเทศซาอุดีอาระเบีย

ทั้งนี้ องค์กรต่างๆที่ขึ้นตรงกับองค์การสหประชาชาติ อาทิเช่น องค์กรอนามัยโลกและองค์กรยูนิเซฟได้กล่าวเตือนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการรุกรานและละเมิดต่อเยเมน ทั้งประชาชนชาวเยเมนยังประสบกับวิกฤติการขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค ทั้งยังเกิดภัยพิบัติต่อมนุษยธรรมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในหลายศตวรรษที่ผ่านมาอีกด้วย