โพลชี้ ชาวญี่ปุ่น 89% หนุนนายกคิชิดะ ห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศ ป้องกันโอมิครอน
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า หนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun เปิดเผยผลสำรวจล่าสุด แสดงให้เห็นว่าชาวญี่ปุ่นกว่า 89% สนับสนุนการตัดสินใจของ ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรี ในการระงับการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน
ผลสำรวจดังกล่าว ซึ่งจัดทำระหว่างวันที่ 3-5 ธันวาคมที่ผ่านมา ยังแสดงให้เห็นว่าคะแนนนิยมล่าสุดของคิชิดะ อยู่ที่ 62% เพิ่มขึ้นจาก 56% ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวเลขคะแนนนิยมที่สูงที่สุดสำหรับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียงประมาณ 2 เดือน และยังมากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับคะแนนนิยมของ โยชิฮิเดะ ซูงะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พ้นจากตำแหน่งไปท่ามกลางเสียงวิจารณ์ถึงความล่าช้าในการรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด
หนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun ยังชี้ว่า ประชาชนดูเหมือนจะให้การยอมรับนายกรัฐมนตรีคิชิดะ ในการรับมือและป้องกันการระบาดของโควิดโอมิครอนได้อย่างรวดเร็ว
โดยรัฐบาลของคิชิดะตัดสินใจบังคับใช้มาตรการควบคุมพรมแดนอย่างเข้มงวด และห้ามชาวต่างชาติทั้งหมดเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้โควิดโอมิครอน อยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่น่ากังวล ซึ่งหลังจากนั้นเพียง 1 วัน ก็มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดโอไมครอนรายแรกในญี่ปุ่น เป็นนักการทูตชาวนามิเบีย ที่เข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน
รายงานผลสำรวจดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลญี่ปุ่นได้พลิกท่าที ยกเลิกคำสั่งระงับการจองเที่ยวบินใหม่จากต่างประเทศในปลายปีนี้ทั้งหมด หลังประกาศไปได้แค่วันเดียว เนื่องจากกังวลต่อผลกระทบที่อาจทำให้ชาวญี่ปุ่นตกค้างในต่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นได้แจ้งไปยังสายการบินต่างๆ ขอถอนคำสั่งยกเลิกจองเที่ยวบินใหม่ และให้เปิดรับการจองเที่ยวบินเข้าญี่ปุ่นอีกครั้ง แต่จำกัดจำนวนประชากรเข้าประเทศวันละ 3,500 คน
อย่างไรก็ตาม ทางด้านเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ JNN ก็รายงานผลสำรวจล่าสุดที่จัดทำขึ้นเช่นกัน โดยพบว่าประชาชนญี่ปุ่นกว่า 84% สนับสนุนการตัดสินใจของคิชิดะในการห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศ ขณะที่คะแนนนิยมของรัฐบาลคิชิดะก็เพิ่มขึ้นเป็น 64% มากกว่าเดือนที่แล้ว 4.7%
ที่มา Thejapantimes