บิ๊กตู่ ย้ำยังไม่ปิดประเทศ และยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด โอมิครอน ขณะที่กำลังคิดตาม 252 นักท่องเที่ยว หากใครพบขอให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ ขออภัยผู้ประกอบการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาจเลื่อนเปิดไปอีก
Burapanews รายงานว่า วันที่ 2 ธันวาคม 2564 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึง สถานการณ์การติดตามเชื้อโควิดโอไมครอนว่า เรื่องนี้เป็นคนแจ้งเตือนเอง หลังจากได้รับทราบข่าว จากเว็บไซต์ต่างประเทศ เป็นสิ่งที่น่าชมเชยที่หน่วยงานของไทย เมื่อรับนโยบายไปแล้ว ก็ตอบสนองโดยทันที ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณะสุข ศบค. ครม. เพื่อให้ความสำคัญในเรื่องนี้ จึงต้องขออภัยในกรณีที่คิดว่าหลายอย่างเราจะทำได้ แต่เมื่อมีเชื้อใหม่อุบัติขึ้นมา เราก็ต้องมีมาตรการขึ้นมารองรับ
“วันนี้ เรายังไม่ได้ข่าวว่า มีผู้ติดเชื้อในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามเชื้อตัวเดิมเราก็ต้องระวังอยู่ เพราะคิดว่าคงต้องระวังกันทั้งโลก สำคัญคือจะทำอย่างไรเราจะต้องระมัดระวังตัวเองกันให้มากที่สุด ตนเข้าใจดีถึงความเป็นอยู่ของประชาชน พี่ต้องการอิสระ ต้องการเดินทาง ต้องการความสนุกสนาน แต่ถ้าเราไม่ช่วยกัน ไม่ว่าโรคอะไรเราก็ต้านทานไม่ได้ ถ้าเราไม่มีวินัยของเราเอง จึงต้องขอร้อง โดยเฉพาะเรื่องการเข้ามา รับการฉีดวัคซีน อย่าไปกังวลว่า เมื่อมีเชื้อตัวใหม่เข้ามาแล้วไม่ฉีด จะรอวัคซีนใหม่ ขณะที่เชื้อเก่ายังอยู่ เราต้องระวังทุกเชื้อที่เกิดขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนการผ่อนคลายมาตรการกิจการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อาจจะต้องมีขยับออกไปบ้าง ก็ต้องขออภัย บอกแล้วอยากให้นึกถึงคนอื่นด้วย เห็นใจโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวถือว่าสำคัญที่สุด แต่ถ้าเราไม่ทำแบบนี้ ก็จะล้มเหลวทั้งหมด และรัฐบาลก็จะกลายเป็นรัฐบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นมันจึงจำเป็น ไม่มีใครอยากจะทำตรงนี้หรอก ดังนั้นจึงขอขยับออกไปก่อนรอดูสักเดือนหนึ่งก่อน และเรื่องนี้ก็ต้องฟังหมอและสาธารณสุข ตนเอง ก็ได้สั่งให้พิจารณาเรื่องการเยียวยากิจการกิจกรรมเหล่านี้เป็นการชั่วคราวไปก่อน อันไหนที่เปิดได้ก็มีอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นสถานที่ปิด มีคนเข้าไปเป็นจำนวนมากและมีการดื่มสุรา ถือว่าเสี่ยงสูงก็ขอเอาไว้ก่อน ซึ่งเรื่องการเยียวยาก็จะนำเข้าครม. ในเร็วๆนี้
ขณะที่การติดตามตัวนักท่องเที่ยว 252 คน เพื่อให้เข้ารับการตรวจเชื้อแบบRT-PCR นายกฯ กล่าวว่า กำลังติดตามอยู่ คนที่อยู่ในพื้นที่ ถ้ารู้ก็ให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่
ส่วนกรณีการแพร่ระบาดของโอไม่ครอนในหลายประเทศรอบประเทศไทยในขณะนี้ จะทำให้เราจำเป็นจะต้องใช้ยาแรงหรือ ถึงขั้นปิดประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังๆ ตอนนี้มีการคัดกรอบแบบ RT-PCR อยู่แล้ว และมีการกักตัวไว้ชั่วคราว จนกว่าจะทราบผล RT-PCR ส่วนตรวจแบบ ATK ต้องยกเลิกไปก่อนถือว่ายังไม่ปลอดภัยในขณะนี้ ซึ่งอาจจะทำให้ลำบากกันขึ้นมานิดหน่อย แต่เราก็ต้องมองทั้ง 2 ทาง ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวและเรื่องเศรษฐกิจ รวมถึงเรื่องความปลอดภัยไปด้วย นี่คือความยากง่ายในการทำงานเราไม่สามารถทำอะไรให้มันง่ายๆได้ คนเป็นร้อยกว่าจะคิดมาตรการออกมาได้ กว่าจะมาถึง นายกรัฐมนตรีที่จะตัดสินใจ อาจจะมีความต้องการด้านหนึ่ง แต่อีกด้านหนึ่งคือด้านสาธารณสุขที่เราก็ต้องดู
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องของโควิดฟรีเซ็ตติ้งเราต้องใช้ ผู้ประกอบการจะต้องศึกษาเรื่องนี้ ทั้งผู้ให้บริการ และผู้รับบริการ สถานประกอบการไหนพร้อมก็ติดป้ายเอาไว้ว่า ปลอดภัยจากโควิด-19 เป็นการรับรองสถานประกอบการนั้นๆ เราจะต้องช่วยกันขยายความแบบนี้ อย่าเอาความเดือดร้อนมาพูดอย่างเดียวแล้วบอกว่ารัฐบาลไม่ได้ช่วยอะไร มันก็จะทำให้เกิดความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน งานก็จะเดินหน้าไปไม่ได้
ส่วนการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) พรุ่งนี้ (3 ธ.ค.) จะมีการทบทวนการจัดกิจกรรมในช่วงปลายปีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโดยทั่วไปในวันนี้เราต้องรักษาเศรษฐกิจเดิมให้ได้มากที่สุด และจะต้องมีเศรษฐกิจใหม่ของเราเพื่อพลิกโฉมประเทศให้เดินต่อไปข้างหน้าในโลกยุค new normalจะต้องไปดูเรื่องส่งเสริมการลงทุนของเราให้มีมากยิ่งขึ้น ต้องปรับรูปแบบกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงต้องปรับรูปแบบเรื่องสิทธิประโยชน์ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ปรับเรื่องโครงสร้างภาษีในส่วนของกระทรวงการคลัง ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างแรงจูงใจให้มีการลงทุนในประเทศ โดยคนไทยและนักธุรกิจข้ามชาติที่จะเข้ามาในประเทศไทย รวมถึงจะต้องดึงดูดคนที่มีศักยภาพสูงให้เข้ามาประกอบธุรกิจหรือเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยเราจะช่วยทำทุกอย่างให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ที่มา สำนักข่าวไทย
No Result
View All Result